นายภิมุข สิมะโรจน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) เผยกลยุทธ์ธุรกิจในปี 64 ยังมีการขยายปั๊มน้ำมันแต่เน้นในทำเลที่เหมาะสม และขยายธุรกิจ Non-Oil ให้มากขึ้น โดยเตรียมงบไว้กว่า 500 ล้านบาท ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงสถานีเดิมให้มีภาพลักษณ์ที่ทันสมัยมากขึ้นด้วย นอกจากนี้บริษัทจะมีการใช้สโลแกนใหม่ “Fuel Your Day เติมพลังให้วันของคุณ”
ส่วนปัญหาพิษเศรษฐกิจ และ COVID-19 ที่ทุกคนเผชิญอยู่นั้น ก็ได้กำชับทุกๆ ส่วนในองค์กรให้ปรับตัว ถึงแม้บริษัทยังไม่มีนโยบายลดคน แต่พนักงานต้องร่วมมือกันช่วยกัน ทั้งในแง่มาตรการการป้องกันด้านสาธารณสุข และด้านการประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อให้ก้าวข้ามผ่านพ้นช่วงนี้ไปให้ได้
ทางด้านนายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของซัสโก้ในช่วง 3 ไตรมาสของปี 2563 บริษัทฯ มีปริมาณการขายน้ำมันรวมประมาณ 800 ล้านลิตร ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 เป็นจำนวน 238 ล้านลิตร หรือลดลงร้อยละ 23 มีรายได้รวม 12,845 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 เป็นจำนวน 8,249 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 39 โดยสาเหตุที่สำคัญคือ ปริมาณการขายที่ลดลงจากผลกระทบ COVID-19 และราคาขายที่ลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ลดลง ส่วนผลกำไรสุทธิอยู่ที่ 118.5 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 ที่มีกำไรสุทธิหลังภาษีเงินได้จำนวน 334 ล้านบาท เป็นจำนวน 216 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 65
ด้านธุรกิจน้ำมันส่งออกในปี 2563 ที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้ประเทศต่าง ๆ ที่เป็นคู่ค้า ต่างก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน ส่งผลให้ยอดการใช้น้ำมันและยอดขายลดลงตามไปด้วย โดยภาพรวมแล้ว แม้ว่ายอดขายทั้งปี ลดลงประมาณ 10% แต่กำไร ยังใกล้เคียงกับปี 2562 ซึ่งบริษัทฯ จะยังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจนี้โดยจะเน้นการรักษาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน
ในส่วนของธุรกิจน้ำมันเครื่องบิน เป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการ Lockdown ทั้งในและนอกประเทศ ส่งผลโดยตรงต่อปริมาณการใช้น้ำมันอากาศยาน โดยในช่วงปลายเดือนมีนาคม ถึง เดือนเมษายน ปี2563 ยอดขายน้ำมันหายไปเกือบ 100% นอกจากนั้น ราคาน้ำมันอากาศยาน ยังดิ่งลงไปสู่จุดต่ำสุด ทำให้เกิด Stock Loss เป็นมูลค่าที่สูง ทำให้ยอดขายทั้งปี 2563 เทียบกับปี 2562 มียอดขายลดลงประมาณ 60% และนับจนถึงปัจจุบันปริมาณการขายน้ำมันเครื่องบินยังกลับมาเพียง 20% เมื่อเทียบกับยอดขายเดิมก่อนช่วง COVID-19 เท่านั้น แต่โดยภาพรวม ธุรกิจน้ำมันเครื่องบินก็ยังทำกำไรได้ในปีที่ผ่านมา
นายชัยฤทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเทรนด์ใหม่อย่างรถยนต์ไฟฟ้าที่จะเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นนั้น ปัจจุบัน SUSCO มีสถานี EV Charging ให้บริการ 22 สาขา โดยมีแนวโน้มขยายเพิ่มสาขาในเขตกรุงเทพ และปริมณฑลอีก 10 สาขา สำหรับรถยนต์กลุ่ม BEV และ PHEV คาดว่าใน 2564 นี้จะมียอดขายประมาณ 4 – 5 หมื่นคัน หรือขยายตัวประมาณ 20% ซึ่งปัจจัยสนับสนุนหลักของตลาด BEV ในอนาคต คือ การที่ภาครัฐและเอกชนจะสามารถเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับตลาด
ในเรื่องของการวางเครือข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้าที่ทั่วถึง และแก้ไขข้อจำกัดในเรื่องระยะทางวิ่ง รวมไปถึงการให้การสนับสนุนทางด้านภาษี เป็นต้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญคาดว่าจะเกิดขึ้นในอีกประมาณ 5 – 10 ปีข้างหน้า
สำหรับแนวทางในการดำเนินธุรกิจของ ซัสโก้ ในปี 2564 ในส่วนของธุรกิจปั๊มน้ำมัน มีแผนจะขยายสถานีเพิ่มเติมอีก 20 สถานี รวมเป็น 260 สถานี โดยจะเน้นพื้นที่ภายในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก และหัวเมืองใหญ่ๆ ตามแหล่งชุมชน นอกจากนั้นแล้วยังจะมีการปรับปรุงภาพลักษณ์ของสถานีเดิมอีก 50 แห่ง ยิ่งไปกว่านั้น ซัสโก้ จะเพิ่มความสำคัญต่อธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจน้ำมัน (Non-Oil) มากขึ้น เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานีบริการให้ครบวงจร โดยได้มีแผนการเพิ่มร้านสะดวกซื้อลอว์สัน 108 เพิ่มร้านกาแฟ Starbucks และ ดิโอโร่ รวมไปถึงเพิ่มพันธมิตรร้านอาหาร และร้านฟาสต์ฟูดเพิ่มขึ้นด้วย เช่น KFC, Subway และร้านอาหารประเภทข้าวแกงอีกหลายแห่ง
ด้านการส่งเสริมการตลาด ซัสโก้ ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนสมาชิก SUSCO Smart Member ที่ปัจจุบันมีสมาชิก 1.4 ล้านราย ให้เพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านราย ภายในปี 2564 โดยในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซัสโก้ ได้มีการปรับเปลี่ยนมาใช้ช่องทาง Line OA @SUSCO เพื่อความสะดวกในการใช้งานของผู้บริโภค ซึ่งมุ่งเน้นการดูแลลูกค้าสมาชิก ด้วยการเพิ่มมูลค่า (Privilege) ต่างๆ ทั้งจากคู่ค้าในสถานีบริการ อาทิ Lawson108 รวมไปถึงคู่ค้าอื่นๆ ส่วนแคมเปญการตลาด ช่วงไตรมาส 2 และ 3 มีแผนจัดกิจกรรมชิงโชค (Lucky Draw) เพื่อให้สอดคล้องกับสถานีบริการโฉมใหม่ ภายใต้แนวคิด “SUSCO Fuel Your Day เติมพลังให้วันของคุณ ” เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ในเมืองให้มากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน ซัสโก้ เปิดให้บริการร้านสะดวกซื้อ Lawson108 ในสถานีบริการน้ำมัน จำนวน 38 สาขา ปีนี้ คาดว่าจะเพิ่มอีก จำนวน 10 สาขา ส่วนร้านกาแฟ Starbucks มีจำนวน 1 สาขา ตั้งอยู่ในสถานีบริการน้ำมันซัสโก้ สาขาราชพฤกษ์ โดยปีนี้ มีแผนจะเปิดเพิ่มอีก 2 สาขา ได้แก่ สาขาหลานหลวง และสาขาศรีนครินทร์3 ในส่วนของ ร้านอาหารฟาสต์ฟูด KFC DRIVE- THRU มีจำนวน 1 สาขา ที่สถานีบริการน้ำมันซัสโก้ สาขาประชาอุทิศ1 เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ และมีแผนจะเปิดเพิ่มอีก จำนวน 4- 5 สาขาภายในปีนี้
การเตรียมความพร้อมในการรับมือกับ COVID-19 รอบใหม่ เชื่อว่าจะส่งผลกระทบกับทุกภาคส่วนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจต้องจัดเตรียมความพร้อมในการดูแลพนักงาน ให้ความสำคัญกับการป้องกัน และปรับปรุงสถานที่ทำงานให้เหมาะกับยุค New Normal เตรียมความพร้อมในด้านสภาพคล่องของบริษัทฯ ให้มีอย่างเพียงพอที่จะผ่านช่วงวิกฤตินี้ไปได้ เพื่อตอบสนองมาตรการป้องกัน COVID-19 ของภาครัฐ ซัสโก้ ให้ความสำคัญสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการรักษาสุขอนามัย การรักษาความสะอาดของอุปกรณ์ และสถานที่ รวมไปถึงบุคลากร ทั้งนี้ ซัสโก้ ได้เปิดบริการให้ลูกค้า สามารถชำระค่าน้ำมันแบบไร้การสัมผัส ซึ่งสะดวกและรวดเร็ว ผ่านช่องทาง E-payment ทั้ง Air Pay และ True Money Wallet (TMN) โดยจะมีแคมเปญร่วมกับทาง Shopee /Air Pay และ True Money Wallet (TMN) จะทยอยออกมาในช่วงต้นปีนี้” นายชัยฤทธิ์ กล่าวในที่สุด