วว. /สกสว. ร่วมหารือ ติดตามการดำเนินงานการวิจัย นวัตกรรม ภายใต้กองทุน ววน.

วว. /สกสว. ร่วมหารือ ติดตามการดำเนินงานการวิจัย นวัตกรรม ภายใต้กองทุน ววน.

ดร.อาภากร  สุปัญญา   รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์และนวัตกรรม  สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)  กระทรวงการอุดมศึกษา  วิทยาศาสตร์  วิจัยและนวัตกรรม  (อว.)  รศ.ดร.ปัทมาวดี  โพชนุกุล   ผู้อำนวยการ  สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)  ร่วมเป็นประธานในการประชุมหารือเพื่อติดตามผลการดำเนินงานการวิจัยและนวัตกรรมของ วว. ภายใต้กองทุนส่งเสริม ววน.  เพื่อสนับสนุนงานมูลฐาน (Fundamental  Fund : FF)  ซึ่งดำเนินการขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์ของ วว. โอกาสนี้คณะผู้บริหาร  นักวิจัย และบุคลากรของทั้งสองหน่วยงาน เข้าร่วมประชุมด้วย  นอกจากนี้คณะฯ ยังได้เยี่ยมชมภารกิจและโครงสร้างพื้นฐาน วว. ที่มีศักยภาพช่วยสนับสนุน ส่งเสริม ความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจของประเทศ ได้แก่  ศูนย์ทดสอบการสลายตัวทางชีวภาพ (Bio D) ศูนย์บริการนวัตกรรมเครื่องสำอางครบวงจร  (ICOS) ศูนย์ไบโอเมทานอล  โรงงานบริการนวัตกรรมอาหาร  (FISP)  ศูนย์ความเป็นเลิศด้านสาหร่าย (ALEC)  และศูนย์ทดสอบมาตรฐานระบบขนส่งทางราง  (RTTC)  ในวันที่  31  สิงหาคม  2565    ห้องประชุมชั้น 5  อาคาร  Admin  วว. เทคโนธานี  คลองห้า  จังหวัดปทุมธานี

รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์และนวัตกรรม  วว.  กล่าวว่า  วว. มีพันธกิจหลักในการวิจัยพัฒนา สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจบนฐานความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ถ่ายทอดเทคโนโลยีนวัตกรรม สู่ภาคอุตสาหกรรม วิสาหกิจชุมชน และผลักดันให้เกิดการนำไปใช้ประโยชน์ทั้งเชิงเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม  ให้บริการวิเคราะห์ ทดสอบ สอบเทียบ รับรองระบบคุณภาพ อบรมและเป็นที่ปรึกษา  เพื่อยกระดับมาตรฐานและความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม  โดยยึดหลักการบริหารจัดการองค์กร สู่องค์กรสมรรถนะสูง ทันสมัย และมีธรรมาภิบาล  ซึ่ง วว. ตระหนักและเห็นความสำคัญเกี่ยวกับทิศทางการขับเคลื่อนงานวิจัย ให้สามารถนำไปสู่เชิงพาณิชย์ได้อย่างเป็นรูปธรรม 

ดร.อาภากร  สุปัญญา   กล่าวต่อว่า  ปัจจุบัน วว. จัดทำแผนวิสาหกิจ ประจำปี 2566- 2570 เพื่อใช้เป็นกรอบทิศทางในการขับเคลื่อนองค์กรด้านการวิจัยพัฒนา ไปสู่การถ่ายทอดเทคโนโลยีนวัตกรรม การให้บริการด้านอุตสาหกรรม และการบริหารจัดการองค์กร โดยมียุทธศาสตร์สำคัญ 5 ด้าน ได้แก่  

ยุทธศาสตร์ที่ 1  วทน .สนับสนุนการสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อยกระดับเศรษฐกิจ BCG  

ยุทธศาสตร์ที่ 2  วทน. สนับสนุนการพัฒนาต่อยอดนวัตกรรม เพื่อยกระดับขีดความสามารถของ SMEs และอุตสาหกรรมเป้าหมาย

ยุทธศาสตร์ที่ 3  วทน. เพื่อจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสำคัญของประเทศด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อม   

ยุทธศาสตร์ที่ 4  พัฒนาองค์กรสมรรถนะสูง  

ยุทธศาสตร์ที่ 5  เพิ่มความสามารถในการพึ่งพาตนเอง 

ซึ่ง วว. มียุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนงานด้าน ววน. เพื่อสนับสนุนงานมูลฐาน (FF)  3 ยุทธศาสตร์ ดังนี้  

ยุทธศาสตร์ที่ 1 มุ่งเน้นการขับเคลื่อนงานวิจัยเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ด้านการเกษตร อาหารและสมุนไพรเพื่อสุขภาพ จากฐานความหลากหลายชีวภาพของประเทศ ตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG 

ยุทธศาสตร์ที่ 2  มุ่งเน้นการวิจัยพัฒนาเพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับ SME และการพัฒนาความสามารถในการให้บริการภาคอุตสาหกรรม และ

ยุทธศาสตร์ที่ 3  มุ่งเน้นการวิจัยด้านการพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานสะอาด และการจัดการสิ่งแวดล้อม เช่น การบริหารจัดการขยะ zero waste และของเสียภาคอุตสาหกรรม 

ดร.อาภากร  สุปัญญา   กล่าวถึงการที่ วว.  ได้รับการสนับสนุนทุน สนับสนุนงานเชิงกลยุทธ์ (Strategic Fund) ในการพัฒนาต่อยอดงานวิจัยเพื่อขับเคลื่อนสู่เชิงพาณิชย์ว่า  ได้รับทุนสนับสนุนงานเชิงกลยุทธ์ (Strategic  Fund) จากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ หรือ บพข. เช่น การผลิตสารสกัดมูลค่าสูงและสารสำคัญสมุนไพร  การทดสอบตามมาตรฐานภาคอุตสาหกรรมในอุตสาหกรรม s-curve ต่างๆ การทดสอบสมบัติการสลายตัวทางชีวภาพในน้ำทะเลและระดับความเป็นพิษตกค้าง  การพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานรากและเศรษฐกิจหมุนเวียน   เป็นต้น และได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช. เช่น การส่งเสริมศักยภาพด้านการเกษตร ไม้ดอก ไม้ประดับ และด้านพลังงาน   เป็นต้น  ในการประชุมหารือกับ สกสว. ในวันนี้ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่ วว.  ได้มีโอกาสสื่อสารและแลกเปลี่ยนความเข้าใจ วว. ยินดีที่จะนำข้อเสนอแนะต่างๆ ไปปรับเป็นแนวทางการบริหารงานวิจัยและขับเคลื่อนงานวิจัยของ วว. ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ