นายณัฏฐพร กลั่นเรืองแสง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานกลยุทธ์ธุรกิจ บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯพร้อมที่จะเดินหน้าตามแผนการลงทุน เพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยของตลาดผู้บริโภคทั้งที่อยู่อาศัยแนวราบ (บ้านเดี่ยว , บ้านแนวคิดใหม่ , ทาวน์โฮม) และแนวสูง (คอนโดมิเนียม)ให้ครอบคลุมทุก เซกเม้นท์ โดยจะเน้นทำเลที่มีศักยภาพและมีกำลังซื้อสูง หนึ่งในนั้นคือพื้นที่กรุงเทพฝั่งตะวันออก โซนบางนา-ตราด
บริษัทฯมองเห็นช่องว่างของตลาดเรียลดีมานด์ย่าน บางนา-ตราด แห่งนี้ และด้วยศักยภาพของทำเลที่อยู่ติดไลฟ์สไตล์มอลล์ขนาดใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ อย่าง MEGA BANGNA ที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ครบทุกรูปแบบ รวมทั้งการเติบโตทางด้านราคายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจึงเป็นโอกาสดีทางธุรกิจ การที่ได้ เอ สเปซ เมกา เข้ามาเพิ่มในพอร์ตคอนโดฯ ทำให้บริษัทฯเติบโตขึ้นและสามารถสร้างรายได้ทันที โดยโครงการได้รับผลตอบรับดีเกินคาด มียอดขายที่ทำได้แล้วกว่า 85% ซึ่งถือว่าเกินกว่าเป้าหมายที่บริษัทวางไว้
นายณัฏฐพร กล่าวถึงเหตุผลที่โครงการ เอ สเปซ เมกา ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ซึ่งสะท้อนผ่านยอดขายนั้นจะมีอยู่ 3 องค์ประกอบหลักคือ
1. ทำเลที่ตั้ง (Location) : ด้วยศักยภาพทำเลที่ตั้งของโครงการ เอ สเปซ เมกา คอนโดแห่งแรกใจกลาง MEGA CITY BANGNA ไลฟ์สไตล์มอลล์ ถนนบางนา-ตราด ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองใหญ่กว่า 400 ไร่ ใช้ชีวิตท่ามกลางความสะดวกสบายรอบด้าน รองรับไลฟ์สไตล์ ช้อป ชิม ชิลล์ พร้อมอิสระจากการเดินทางในการเลือกเส้นทางเข้า-ออก เมือง เชื่อมต่อแหล่งไลฟ์สไตล์ ติดศูนย์การค้า ตอบสนองทุกไลฟสไตล์ทั้งสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษาระดับชั้นนำ
ทั้งของภาครัฐและเอกชน อีกทั้ง ยังใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน 1 นาที จากทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนภิเษกฯ และใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง (กำลังก่อสร้าง) เชื่อมต่อกับส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ
2. การออกแบบ (Design concept):คอนโดมิเนียมสูง 35 ชั้น ออกแบบในสไตล์ FUTURISTIC MODERN DESIGN ใช้เส้นสายที่สะท้อนถึงคนยุคใหม่ ไม่หยุดนิ่งมาผสมผสานร้อยเรียงกับการใช้สีที่หลากหลาย ถ่ายทอดความเป็น URBAN LIFESTYLE ได้อย่างลงตัว รวมถึงการใช้วัสดุโทนสีสดใสดูสนุกสนาน พร้อมอัพพลังขับเคลื่อนความ ACTIVE ได้เต็มที่ในทุกๆ วัน ออกแบบมาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่ไม่จำกัดตลอด 24 ชั่วโมง ภายใต้แนวคิด “THE COMPLETE LIFESTYLE HUB เมืองใหม่ในเมืองใหญ่” เติมเต็มไลฟ์สไตล์ครบครัน บนเนื้อที่โครงการกว่า 4 ไร่ จำนวน 1 อาคาร (แบ่งเป็น Zone A – Zone B) จำนวนยูนิตพักอาศัย 1,328 ยูนิต และจำนวนร้านค้า 8 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,166 ล้านบาท มีห้องพักอาศัยแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 28.52 – 34.97 ตารางเมตร(ตร.ม.) และแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 56.73 – 62.55 ตารางเมตร(ตร.ม.) ราคาขายเฉลี่ยทั้งโครงการ 69,000 บาทต่อ ตร.ม. โดยราคาเริ่มเพียง 1.79 ล้านบาทต่อยูนิต* เท่านั้น เพื่อความสะดวกสบายทางโครงการได้ติดตั้งลิฟต์โดยสาร 8 ตัว และลิฟต์ขนของอีก 1 ตัว รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆอย่างครบครัน
3. ส่วนกลาง (Facilities):ลงตัวกับพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ถึง 5 ชั้น ปกคลุมด้วยพื้นที่สีเขียวกว่า 2.6 ไร่ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจใน CO-WORKING SPACE ที่ออกแบบฟังก์ชันให้มีพื้นที่นั่งแบบลดหลั่นเป็นขั้น ๆ และสวิตช์ไฟที่เตรียมไว้ให้อย่างเพียงพอเพื่อให้สะดวกสำหรับการนั่งทำงานในระหว่างวัน ลงตัวทุกการใช้ชีวิต 24 ชั่วโมง ดังนี้
- ชั้น 1 พบกับ 8 ร้านค้า และพื้นที่สวนสีเขียวขนาดใหญ่
- ชั้น 3 ออกแบบให้เป็น CO-WORKING SPACE ดีไซน์ DOUBLE VOLUME โปร่งโล่งสบาย เปิดให้บริการ 24 ชม.
- ชั้น 5 รองรับกิจกรรมที่สร้างความ ACTIVE ให้คุณได้ปลดปล่อยพลัง พร้อมบำบัดความเหนื่อยล้า อาทิ สระว่ายน้ำ INFINITY EDGE POOL, FULL FUNCTION FITNESS, BOXING CORNER และ YOGA CORNER ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็น DANCING ROOM ได้ด้วย
- ชั้นดาดฟ้า มองเห็น IKEA และชมทัศนียภาพย่านบางนากับ SKY JOGGING TRACK ออกกำลังกายเบาๆ รับวิวเมืองในมุมสูง
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้เสริมทัพให้ทีมบริหารงานขายแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม โดยได้จับมือกับ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่มีความเชี่ยวชาญอย่างดีในตลาดฝั่งกรุงเทพฯโซนตะวันออก
นายณัฎฐา คหาปนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำศักยภาพทำเลย่านบางนาว่า บางนาเป็นยุทธศาสตร์ทำเลที่มีกำลังซื้อสูง และเป็นพื้นที่เชื่อมโยงเส้นทางไปสู่พื้นที่ EEC ภาคตะวันออกของประเทศไทย (Eastern Economic Corridor เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) ทำให้ผู้พัฒนาอสังหาฯมีความเชื่อมั่นด้านกำลังซื้อในทำเลนี้มีการพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่อง บางนาจึงกลายเป็นทำเลที่มีทั้งที่อยู่อาศัย, สนามบิน, ศูนย์ประชุม, ศูนย์การค้าขนาดใหญ่, สนามกอล์ฟ, อาคารสำนักงาน และที่สำคัญ เป็นแหล่งรวมโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดด้านฐานะและกำลังซื้อที่ดีอย่างหนึ่ง อีกทั้งบนเส้นถนนบางนา-ตราด มีโครงการขนาดใหญ่ที่เป็น Magnet ทั้งโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและขั้นเตรียมการซึ่งมีเม็ดเงินลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนรวมกันไม่น้อยกว่า 5 แสนล้านบาท
คุณณัฎฐา กล่าวอีกว่า โครงการคอนโดฯ บริเวณบางนาในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา จากเดิมมีราคาต่อตารางเมตรอยู่ที่ 60,000-80,000 บาท ปัจจุบันเริ่มมีคอนโดฯระดับราคา 100,000 บาทต่อตารางเมตรในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีโครงการมิกส์ยูส คอนโดฯ ระดับไฮเอ็นด์ที่ผสมผสาน Wellness Flagship ที่อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการ ซึ่งมีระดับราคาสูง ตั้งแต่ประมาณ 160,000- 450,000 บาทต่อตารางเมตรเกิดขึ้น ขณะเดียวกันพบว่ามีโครงการคอนโดมิเนียมระดับกลางเป็นกลุ่มสินค้าที่น่าสนใจ ให้ผลตอบแทนจากราคาค่าเช่าสูงเมื่อเทียบกับราคาเสนอขาย หรือคิดเป็น Yield ที่ประมาณ 5% ซึ่งในอนาคตเมื่อโครงการเมกะโปรเจกต์ต่างๆ ทยอยเปิดให้บริการจะเป็นผลบวกต่อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
โครงการ เอ สเปซ เมกา ประกาศเปิดชมห้องจริงและส่วนกลางครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 18-19 มิถุนายน 2565 นี้ และจัดโปรโมชั่น จองเพียง 5,000 บาท พร้อมห้องราคาพิเศษ! ในราคาเริ่ม 1.79 ล้านบาท* หรือเพียง 62,000 บาท/ตร.ม.* เท่านั้น และสำหรับลูกค้าที่สนใจชุดเฟอร์นิเจอร์แบบครบเซตพร้อมเครื่องใช้ไฟ้ฟ้า โครงการจัดเตรียมแพคเกจเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า* ให้ในราคา 1 แสนบาท สามารถลากกระเป๋าเข้าอยู่ได้ทันที
สนใจดูรายละเอียดได้ทาง www.realasset.co.th/condominium/ASpaceMega หรือโทรสอบถามเพิ่มเติมโทร 1232
พร้อมกันนี้นายณัฏฐพร ยังกล่าวย้ำในตอนท้ายว่า บริษัทฯมุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างความไว้วางใจต่อกลุ่มลูกค้า นักลงทุน และสถาบันการเงิน โดยต่อจากนี้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าอาจได้เห็นบริษัทฯ เข้าซื้อกิจการ หรือเทกโอเวอร์โครงการมากขึ้น ซึ่งจะทำให้พอร์ตคอนโดฯเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด