ฉีดก่อนถูกกัด! ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าได้

ฉีดก่อนถูกกัด! ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าได้

โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคที่อันตรายร้ายแรงถึงชีวิต แต่ปัจจุบันสามารถป้องกันได้ตั้งแต่ก่อนถูกกัดด้วยวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า  ซึ่งโรคพิษสุนัขบ้านี้สามารถเกิดได้กับสัตว์เลือดอุ่นเลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นสุนัข แมว หนู ลิง กระรอก กระต่าย  ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการได้รับเชื้อ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ชอบเล่นกับสัตว์ หรือเลี้ยงสัตว์ อาจถูกสัตว์กัด ข่วน หรือถูกเลียบริเวณที่มีแผลหรือที่ปาก หลังจากที่ผู้ป่วยได้รับเชื้อจะมีอาการแสดงได้ตั้งแต่ 3 สัปดาห์ถึง 6 เดือนจะมีไข้ปวดหัวมีอาการทางระบบประสาทมักมีอาการกลัวน้ำอาจมีอาการรุนแรงจนถึงเสียชีวิตได้ผู้ที่ได้รับเชื้อโดยที่ไม่ได้รับการป้องกันและรักษาอย่างทันท่วงทีมักเสียชีวิตเกือบทุกราย

พญ.วิไลรัตน์ หล้ามาชน  กุมารแพทย์  ศูนย์แม่และเด็ก โรงพยาบาลหัวเฉียว กล่าวว่า   โรคพิษสุนัขบ้า (Rabies) หรือโรคที่มักเรียกว่าโรคกลัวน้ำ (Hydrophobia) เป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่เกิดจากเชื้อ Rabies Virus ติดต่อได้โดยการได้รับสารน้ำ หรือสิ่งคัดหลั่งจากสัตว์ที่ติดเชื้อนี้เข้าสู่บาดแผล เมื่อเชื้อเข้าสู่เส้นประสาทหรือเนื้อเยื่อของระบบประสาท จะมีการแบ่งตัวและเดินทางเข้าสู่สมอง ทำให้เกิดสมองอักเสบชนิดรุนแรง อาจส่งผลทำให้เสียชีวิตได้ เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มียาที่ใช้ในการรักษา แต่ทั้งนี้เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีนก่อนการสัมผัสโรค โดยมีข้อดีดังนี้

1. ลดการฉีดอิมมูโนโกลบูลิน (Immunoglobulin) รอบบาดแผล ซึ่งเป็นวัคซีนการให้ภูมิคุ้มกันแก่ร่างกายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคพิษสุนัขบ้าหลังโดนสัตว์กัด  อาจมีอาการข้างเคียงหลังการฉีดวัคซีนที่พบในผู้ป่วยบางราย  อีกทั้งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

2. ลดจำนวนในการฉีดวัคซีน  หากมีการฉีดวัคซีนก่อนการสัมผัสโรคแล้ว  เมื่อโดนสัตว์กัดผู้ป่วยจะได้รับการกระตุ้นเพียง 1-2 เข็มเท่านั้น แทนการฉีด 5 เข็ม ซึ่งสามารถลดจำนวนการฉีดลงได้ 

โรงพยาบาลหัวเฉียวขอเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลท่านและคนที่ท่านรัก ด้วยแพ็กเกจป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า (ก่อนสัมผัสโรค) จำนวน 2 เข็ม ฉีดห่างกัน 1 สัปดาห์  ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2567