การจัดการการกระจายความเสี่ยง (Diversification management) เป็นกลยุทธ์การจัดการธุรกิจประเภทหนึ่งที่สามารถเพิ่มจำนวนลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับบริษัทที่ต้องการกระจายความเสี่ยงในวงจรธุรกิจ ยกตัวอย่างการกระจายความเสี่ยงของบริษัทชั้นนำ อาทิ Uni-President Enterprises Corporation ได้ขยายธุรกิจไปยังอุตสาหกรรมอาหารและช่องทางการจัดจำหน่าย ในขณะที่ธุรกิจของ Chimei Corporation ครอบคลุมตั้งแต่อุตสาหกรรมปิโตรเคมี อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงอุตสาหกรรมอาหาร และโรงพยาบาล ด้าน King Slide Works ซึ่งตั้งอยู่ในเขตหลูหู เมืองเกาสง ซึ่งเป็นผู้นำด้านการจัดการความหลากหลายของแบรนด์ในอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์ และการพัฒนารูปแบบที่ประสบความสำเร็จทั้งในตลาดรางเซิร์ฟเวอร์ (server rail) และสินค้าตกแต่งบ้าน (home furnishing)
เช่นเดียวกับผู้ประกอบการ SMEs ส่วนใหญ่ในไต้หวัน King Slide เริ่มก่อตั้งธุรกิจจากโรงหล่อที่เชี่ยวชาญในการผลิตอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ (furniture hardware) จากนั้น เพื่อเอาชนะความท้าทายทางเศรษฐกิจจึงริเริ่มเตรียมความพร้อมด้วยการสร้างแบรนด์ของตัวเองภายใต้ชื่อ ‘King Slide’ โดยสามารถคว้าโอกาสทางธุรกิจได้ตั้งแต่ยุคคลาวด์ในปี 2000 และมุ่งเป้าไปที่ตลาดผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ต่อพ่วงเซิร์ฟเวอร์ กลายเป็นแบรนด์รางเซิร์ฟเวอร์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกด้วยส่วนแบ่งตลาด 30% บริษัทเทคโนโลยีระดับนานาชาติหลายแห่ง รวมถึง IBM, HP และ Dell เป็นลูกค้าประจำของ King Slide
เมื่อพิจารณาถึงความสามารถในการทำงานร่วมกันของธุรกิจรางเซิร์ฟเวอร์ และธุรกิจเทคโนโลยีรางแขวนอุปกรณ์ครัว (Kitchen Rail Technology) ดังนั้น King Slide จึงได้เริ่มมุ่งมั่นในอุตสาหกรรมการตกแต่งบ้าน (home furnishing) เพื่อรวบรวมกลยุทธ์การจัดการการกระจายความเสี่ยง (diversification management) ของแบรนด์ โดย เจน ลิน (Jane Lin) ผู้จัดการทั่วไป ให้ความเห็นว่า “ตลาดเครื่องครัวและเซิร์ฟเวอร์ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกัน แต่จริง ๆ แล้วการขึ้น ๆ ลง ๆ ของวงจรธุรกิจทั้งสองตลาด สามารถกระจายความเสี่ยงของการยกเลิกคำสั่งซื้อของผลิตภัณฑ์เดียวได้”
“Hard Power” ที่อยู่เบื้องหลังแบรนด์ King Slide คือกุญแจสำคัญในการสร้างฐานที่มั่นคงในตลาดเซิร์ฟเวอร์และเครื่องครัว King Slide ทุ่มเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์ทุกปีในการวิจัยและพัฒนาการบำรุงรักษาผลิตภัณฑ์ทั่วโลกและการขอสิทธิบัตร โดยได้รับสิทธิบัตรมากกว่า 1,000 ฉบับ และมีเทคโนโลยีที่ได้รับการจดสิทธิบัตรถึง 124 รายการ นอกจากนี้ ยังได้รับการยอมรับจาก Taiwan Excellence Award หลายครั้ง เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ ‘SIMLEAD Safety Drawer System with Push Open, Soft-Closing and VSD’ ได้รับเลือกให้เป็นรางวัล Taiwan Excellence Silver Award ในปี 2019 ซึ่งดึงดูดความสนใจให้กับแบรนด์ King Slide มากยิ่งขึ้น King Slide นับเป็นผู้บุกเบิกการออกแบบที่เป็นนวัตกรรมใหม่ 3 แบบ ได้แก่ “Ever-Active Push-Open Design”, “Vibration Safety Design (VSD)” และ “Switchable Push-Open Design” ซึ่งได้จัดแสดงในงาน National Hardware Show ใน Taiwan Excellence Pavilion เมื่อปี 2019 ผลิตภัณฑ์ของ King Slide ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางจากผู้ซื้อต่างประเทศ สร้างโอกาสทางธุรกิจจำนวนมากในตลาดยุโรปและอเมริกา
จากรายงานของ DIGITIMES Research การจัดส่งเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตที่ CAGR ประมาณ 6.5% ภายในปี 2022 และคาดว่าการเติบโตของตลาดเครื่องครัวจะอยู่ที่ 30% นี่แสดงถึงโมเมนตัมการเติบโตที่แข็งแกร่งสำหรับรายได้ในอนาคตของ King Slide จากการบริหารความหลากหลายของแบรนด์ King Slide จึงไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ในปีนี้ และมีผลประกอบการที่โดดเด่นถึง 1.161 พันล้าน NTD ในไตรมาสแรก ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.01% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ Taiwan Excellence Award ก่อตั้งขึ้นโดยกระทรวงเศรษฐกิจในปี 1993 โดยได้คัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นที่มี “คุณค่านวัตกรรม” มากที่สุดเป็นประจำทุกปี จากเกณฑ์ 4 ข้อ ได้แก่ “R&D” “การออกแบบ” “คุณภาพ” และ “การตลาด” ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ มารวมกันเป็นทีมชาติในแต่ละปี นอกจากนี้ Taiwan Excellence ยังมีส่วนช่วยผลักดันการจัดทำรายการส่งเสริมการขายทั้งในประเทศ ต่างประเทศ และการตลาดดิจิทัล รวมถึงช่วยยกระดับภาพลักษณ์ที่มีคุณภาพสูงของอุตสาหกรรมไต้หวัน
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: https://www.taiwanexcellence.org/tw
ติดตามอัพเดทข่าวสาร Facebook : https://www.facebook.com/TaiwanExcellence.TH/