LPP ดูแลเข้มวิกฤติ PM 2.5 ในโครงการและพื้นที่ใกล้เคียง  พร้อมกำหนดมาตรการดูแลคุณภาพชีวิต และความปลอดภัยให้แก่ลูกบ้าน

LPP ดูแลเข้มวิกฤติ PM 2.5 ในโครงการและพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมกำหนดมาตรการดูแลคุณภาพชีวิต และความปลอดภัยให้แก่ลูกบ้าน

LPP เดินหน้าฉีดพ่นละอองน้ำในโครงการที่บริหารจัดการ เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 คุกคามสุขภาพและการใช้ชีวิตของลูกบ้าน พร้อมกำหนดมาตรการดูแลเข้ม – เพิ่มความถี่ในทุกกระบวนการ เพื่อให้ครอบคลุมทุกการใช้ชีวิตและการอยู่อาศัยที่ดีแก่ลูกบ้าน LPP และสังคมข้างเคียง

นางสมศรี เตชะไกรศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์  จำกัด หรือ LPP ผู้นำในธุรกิจบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร  เปิดเผยว่า  สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่มีระดับสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด ทั้งในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล  และยังปกคลุมไปอีกหลายพื้นที่ในประเทศไทย ซึ่งอยู่ในระดับที่เริ่มส่ง ผลกระทบ” ต่อความกังวลในสุขภาพและการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชนเป็นอย่างมาก แม้ในบางช่วงหรือบางพื้นที่ค่าฝุ่น PM 2.5 จะลดลงบ้าง แต่ก็จะกลับมามีค่าฝุ่นสูงขึ้นอยู่เป็นระยะๆ โดยในส่วนของ LPP ได้ตระหนักถึงบทบาทสำคัญในการดูแลชีวิตความเป็นอยู่และความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยที่อยู่ภายใต้การดูแลมากกว่า 260 โครงการ ตลอดจนชุมชนใกล้เคียง และสิ่งแวดล้อม โดย LPP ได้ทำการฉีดพ่นละอองน้ำจากชั้นดาดฟ้าในโครงการที่ดูแล เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 และลดอัตราการกระจายฝุ่นให้แก่ผู้อยู่อาศัยในอาคารและชุมชนละแวกใกล้เคียง  ซึ่งถือเป็นนโยบายที่ LPP ได้ทำมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในประเทศไทย ทั้งนี้แม้การฉีดพ่นน้ำจะไม่สามารถแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ได้ แต่ถือเป็นการลดช่วยระดับความรุนแรง และยังช่วยลดการกระจายของฝุ่นละออง PM 10 ได้อีกทางหนึ่งด้วย

นางสมศรี กล่าวต่อว่า เพื่อให้ครอบคลุมถึงการดูแลคุณภาพชีวิตของการอยู่อาศัยที่ดีของลูกบ้าน ตามแนวคิด “ร่วมใจ ห่วงใย แบ่งปัน” LPP ได้เพิ่มมาตรการเข้มข้นร่วมกับฝ่ายบริหารจัดการ ชุมชน คณะกรรมการนิติบุคคลฯ ในทุกกระบวนการมากยิ่งขึ้น โดยกำหนดให้มีการกวาดและทำความสะอาดถนนภายในโครงการอย่างเป็นประจำและสม่ำเสมอ มีการฉีดพ่นน้ำเพื่อดูแลภูมิทัศน์ภายในโครงการให้ถี่ขึ้นเพื่อลดปริมาณฝุ่น สนับสนุนให้มีการจัดการแยกขยะและลดปริมาณขยะภายในโครงการ เพื่อลดการเผาไหม้หรือการนำไปกำจัดอย่างผิดวิธี อีกทั้ง LPP ยังเดินหน้าผลักดันนโยบายการเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในโครงการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดเป็น Green Community” เพราะต้นไม้คือแหล่งดูดซับก๊าซพิษ ผลิตก๊าซออกซิเจน และสร้างสมดุลแก่ที่อยู่อาศัยให้ชุมชนมีความน่าอยู่มากยิ่งขึ้น รวมทั้งลูกบ้านยังสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย มีสุขภาพและสุขภาวะอนามัยที่ดี และเป็นการช่วยลดปัญหามลพิษเพื่อร่วมรับผิดชอบต่อสังคมอีกด้วย

“LPP ในฐานะผู้บริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ขอฝากความห่วงใยถึงลูกบ้านและประชาชนทุกท่านให้หมั่นคอยดูแลตรวจเช็คสุขภาพ และเฝ้าระวังสถานการณ์โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 อยู่ในเกณฑ์ที่สูงขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูง สวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นทุกครั้งเมื่ออยู่นอกอาคาร เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตของท่านและครอบครัว อีกทั้งขอให้ประชาชนทุกท่านหันมาร่วมกันดูแลใส่ใจรักษาสิ่งแวดล้อมในรูปแบบวิธีต่างๆ ที่ท่านสามารถทำได้ เพื่อร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงสังคมให้กลับมาน่าอยู่และปลอดภัยอย่างยั่งยืน” นางสมศรีกล่าวในที่สุด