พรีบิลท์ ส่ง “พรรณนา ทวีวัฒนา” บ้านเดี่ยวหนึ่งเดียวในทวีวัฒนาที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว เปิดชมครั้งแรก 25-26 พฤษภาคม

พรีบิลท์ ส่ง “พรรณนา ทวีวัฒนา” บ้านเดี่ยวหนึ่งเดียวในทวีวัฒนาที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว เปิดชมครั้งแรก 25-26 พฤษภาคม

“พรีบิลท์” ส่งต่อความสำเร็จบ้านเดี่ยวระดับ Luxury แบรนด์  “พรรณนา”  ส่งต่อโครงการ “พรรณนา ทวีวัฒนา” ลงตลาด ชูจุดเด่น “คุ้มค่า แตกต่าง เป็นส่วนตัว” “บ้านเดี่ยวหนึ่งเดียวในทวีวัฒนาที่มี สระว่ายน้ำส่วนตัวให้กับบ้านทุกหลัง บนที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.ว.” เตรียมเปิดชม ครั้งแรก! ในวันที่ 25-26 พฤษภาคม 2567 นี้ ราคาเริ่มที่ 18-25 ล้านบาท*

นายวิโรจน์  เจริญตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ PREB เปิดเผยว่า จากความสำเร็จโครงการพรรณนา พุทธมณฑลสาย 3 บ้านเดี่ยวระดับ Luxuryโครงการแรกย่านพุทธมณฑลที่พัฒนาโดย บริษัทพรีบิลท์ ดีเวลลอปเม้นท์จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัทพรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) สามารถปิดการขายและโอนได้อย่างรวดเร็ว เพียง  2 ปี จากจำนวนบ้านทั้งหมด 98 หลัง จึงได้ทำการพัฒนาโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ “พรรณนา” ในทำเล ทวีวัฒนา

โครงการ PANNANA THAWI WATTHANA (พรรณนา ทวีวัฒนา) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยวหนึ่งเดียวใน ทวีวัฒนา ที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัวภายในพื้นที่บ้านทุกหลัง บนที่ดินเริ่มต้น 100 ตารางวา(ตร.ว.) สังคมส่วนตัวเพียง 52 ครอบครัว พร้อมเปิดชมครั้งแรก! ในวันที่ 25-26 พฤษภาคม 2567 นี้ ราคาขายเริ่มที่ 18-25 ล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย Young Successor และเจ้าของกิจการในบริเวณนั้น

“มีลูกค้าที่ต้องการ แต่ซื้อที่พรรณนาโครงการแรกไม่ทัน ก็ตามมาซื้อที่โครงการใหม่นี้ด้วย แม้จะยังไม่เปิดขาย และเปิดเยี่ยมชมอย่างเป็นทางการก็ขายไปแล้ว 5 หลัง มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท เรามั่นใจว่าโครงการพรรณนา ทวีวัฒนา จะได้รับกระแสตอบรับและประสบความสำเร็จอย่างงดงามเช่นเดียวกับพรรณนาโครงการแรก” นายวิโรจน์กล่าว พร้อมกับให้เหตุผลประกอบถึงความสำเร็จหลักๆ เพราะ “คุ้มค่า” และรูปแบบดีไซน์ รวมถึงความมั่นใจที่มาจากบริษัทแม่คือ พรีบิลท์ ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจก่อสร้าง และอยู่เบื้องหลังความสำเร็จโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทชั้นนำต่างๆ มาเกือบ 30 ปี ทำให้สามารถบริหาร และเลือกสรรสิ่งที่ดีและมีคุณค่าให้กับลูกค้า ทำให้บริษัทพรีบิลท์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด สามารถสร้างโครงการที่มีความสมบูรณ์ในทุกด้าน มีความคุ้มค่าและแตกต่างจากโครงการอื่นๆ บนย่านเดียวกันในราคาที่สมเหตุสมผล ทั้งนี้โครงการพรรณนา ทวีวัฒนา ก็มีความแตกต่างจากโครงการอื่นๆ ที่อยู่ในทำเลเดียวกันอย่างเห็นได้เด่นชัดนั่นคือบ้านเดี่ยว บนที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.ว. ที่มี “สระว่ายน้ำส่วนตัว” ให้กับบ้านทุกหลัง และการออกแบบงานสถาปัตยกรรมที่คำนึงถึงความเป็น Timeless design ทั้งที่ตัว Façade บ้านและรูปแบบโครงการ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญในเรื่องพื้นที่ใช้สอย ดังนี้

  • ฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ภายในบ้าน สามารถตอบสนองการใช้งานในชีวิตจริง และครอบคลุมทุกช่วงอายุของผู้พักอาศัยในทุกGeneration
  • รูปแบบสถาปัตยกรรมถูกออกแบบโดยใช้องค์ประกอบของความเป็นModern Classic เพื่อสร้างความภูมิฐานเรียบง่าย และ สามารถอยู่ร่วมได้ทุกยุคสมัย (Timeless)

โครงการ พรรณนา ทวีวัฒนา ตั้งอยู่ที่ ถ.ทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก บนที่ดินกว่า 20 ไร่ พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 52 ยูนิต มี 2 แบบบ้านให้เลือกบนที่ดิน 100-140 ตร.ว.

  • แบบP320 พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน 320 ตร.ม และสระว่ายน้ำอีก 43 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม 363 ตร.ม.
  • แบบP414 พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน 414 ตร.ม และสระว่ายน้ำอีก 56 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม 470 ตร.ม.

เพื่อตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีความต้องการบ้านขนาดใหญ่ดีไซน์โปร่งโล่งสบายด้วยการ Combine Space ฟังก์ชันห้องนั่งเล่น และครัวเพื่อให้ลูกค้าเลือกใช้พื้นที่ได้ยืดหยุ่นมากขึ้น ครบทุกฟังก์ชันใช้สอยในบ้าน โดยบ้านทั้ง 2 แบบ มี 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องพักผ่อน 3 ที่จอดรถ ห้องพระ ส่วนรับแขก ห้องครัว ส่วนรับประทานอาหาร ห้องแม่บ้าน และส่วนพื้นที่ซักรีด พื้นที่ส่วนกลางที่ลงต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่น และช่วยเพิ่มบรรยากาศการอยู่อาศัย มี Pavilion ไว้สำหรับนั่งพักผ่อนที่สวนส่วนกลาง

สร้างความมั่นใจให้กับลูกบ้านด้วยการดูแลนิติบุคคล จากทีมงานที่เป็นมืออาชีพ  ประสบการณ์มากว่า 30 ปี ที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้พักอาศัย โดย บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกบ้านได้อย่างครบทุกมิติ รวมทั้งเรื่องของความปลอดภัยในการอยู่อาศัย โดย โครงการ พรรณนา ทวีวัฒนา เลือกใช้  LIV – 24   ด้วยประสบการณ์ในการดูแลความปลอดภัยในโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ และธุรกิจอื่น ทำให้มั่นใจว่าเป็นระบบความปลอดภัยที่ดีที่สุดให้ลูกบ้าน ด้วยระบบรักษาความปลอดภัย 3 ชั้น ตั้งแต่การคัดกรองการผู้มาติดต่อก่อนเข้าโครงการ ด้วย Smart Gate ที่ใช้ระบบ LIV-24 Visitor Management System (VMS) ในการจัดการ, CCTV Analytic ตรวจสอบทุกเหตุผิดปกติทั้งในและนอกโครงการ พร้อมด้วยกล้องอัจฉริยะแบบ Real Time และ Monitor การทำงานของรปภ. ให้ทำงานเต็มประสิทธิภาพ แบบ 24 ชม. ซึ่งทั้งหมดดูแลและสั่งการจาก Command Centre ที่มีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล

นอกจากนี้ ทำเลที่ตั้งโครงการยังเดินทางสะดวกด้วยทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี ถ.กาญจนาภิเษก ทางด่วนศรีรัช ถ.พุทธมณฑลสายสี่-พรานนก เชื่อมเข้ากับจรัญสนิทวงศ์  แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ทั้งโรงพยาบาลขนาดใหญ่อย่าง รพ.มหิดล, รพ.วิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล หนองแขม บางแค, รพ.ธนบุรี 2, รพ.เกษมราษฎร์, สถาบันการศึกษาทุกระดับชั้น ม.มหิดล, ม.กรุงเทพ-ธนบุรี, รร.สาธิตกรุงเทพธนบุรี, รร.สารสาสน์ ธนบุรี, รร.อัสสัมชัญ ธนบุรี, ห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอล์ขนาดใหญ่ อย่าง เซ็นทรัล ศาลายา,  เดอะมอล์ บางแค,  เดอะพาสิโอ้, ตลาดเวิลด์มาร์เก็ต, ตลาดธนบุรี เป็นต้น

ทั้งนี้ การดูแลด้านความปลอดภัยพื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการนั้น นางสาวนิรมล ดิเรกมหามงคล ผู้อำนวยการอาวุโส  LIV-24 Living Technology บริษัท LIV-24 จำกัด ที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีดูแลความปลอดภัยอัจฉริยะและจัดการระบบวิศวกรรม กล่าวว่า สำหรับระบบที่ติดตั้งให้ทางโครงการพรรณนา ทวีวัฒนาจะเป็น 4 ระบบดังนี้ 

  1. CCTV Analytics:ระบบกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ แจ้งเตือนทุกเหตุการณ์แบบReal Time มี Command Centre เป็นศูนย์ปฏิบัติการส่วนกลาง เพื่อดูแลควบคุมและประสานงานทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
  2. Real Time Guard Tour:ระบบการเดินตรวจสอบพื้นที่ของ รปภ. โดยใช้ NFC มาเป็นเหมือน Third Party ที่เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ รปภ. มีบันทึกตรวจสอบการทำงานได้แบบ Real Time สามารถเปลี่ยน Route การเดินตรวจสอบพื้นที่ของ รปภ.ได้ ทำให้มั่นใจถึงการทำงานที่จะได้รับการตรวจสอบอยู่เสมอ
  3. License Plate Recognition (LPR):ระบบอ่านทะเบียนรถอัตโนมัติ ที่นำAI เข้ามาใช้ ทำให้สะดวกรวดเร็ว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
  4. Visitor Management System (VMS):ระบบจัดการผู้มาติดต่อในโครงการ ผ่านช่องทางLiving Plus App หรือ Line Application สามารถลงทะเบียนผู้มาติดต่อล่วงหน้า พร้อมแจ้งเตือนผู้มาติดต่อ สะดวกในการใช้ E-Stamp บัตรจอดรถอัตโนมัติ รวมทั้งสามารถดูประวัติข้อมูลผู้มาติดต่อย้อนหลังได้

“ด้วยระบบเทคโนโลยีที่มาพร้อมการประมวลผลอัจฉริยะผสานการทำงานกับทีมผู้เชี่ยวชาญทำให้การดูแลความปลอดภัยในพื้นที่โครงการทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวดเร็ว เป็นการป้องกันเหตุก่อนจะเกิด ช่วยให้ลูกบ้านมั่นใจว่าจะได้รับการดูแล ตลอด  24 ชม. แบบไม่มีวันหยุดพัก อีกทั้งยังเชื่อว่าการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในอนาคตเมื่อเทียบกับค่าแรงของ รปภ. ที่มีแต่จะเพิ่มขึ้น” นางสาวนิรมล  กล่าวในตอนท้าย

พร้อมกันนี้ นายวิโรจน์ ยังกล่าวให้ความเห็นถึงภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในปี พ.ศ. 2567 ว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศมาตรการสนับสนุน ด้วยการลดค่าธรรมเนียมการโอน และจดจำนองลงมาเหลือ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้านของธนาคารน่าจะช่วยลดภาระค่าผ่อน ให้ผู้บริโภคได้ด้วยเช่นกัน โดยสำหรับ Segment บ้านระดับ Luxury เป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยได้รับผลกระทบในเรื่องการขอสินเชื่อเท่าไหร่ เนื่องจากผู้บริโภคกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีธุรกิจเป็นของตนเองและมีเครดิตที่ดีกับธนาคาร สุดท้ายแล้ว “สำหรับทุกมาตรการที่รัฐออกมา ถือเป็นเรื่องที่ดีต่อภาพรวมต่อเศรษฐกิจ” นายวิโรจน์ กล่าวเสนอแนะในตอนท้าย