วว. จับมือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ขับเคลื่อนงานวิจัยอุตสาหกรรมชีวภาพสู่เชิงพาณิชย์

วว. จับมือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ขับเคลื่อนงานวิจัยอุตสาหกรรมชีวภาพสู่เชิงพาณิชย์

ดร.ชุติมา  เอี่ยมโชติชวลิต  ผู้ว่าการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)  ลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือทางวิชาการกับ รศ.ดร.สุวิทย์  แซ่เตีย  อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี  (มจธ.)  โดยมีระยะเวลาความร่วมมือ  2  ปี  เพื่อบูรณาการดำเนินงาน ส่งเสริม  สนับสนุน  พัฒนางานวิจัยด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ  พัฒนางานบริการอุตสาหกรรม  ร่วมผลักดันให้เกิดการนำผลงานวิจัยหรือผลิตภัณฑ์จากงานวิจัยไปสู่การต่อยอดใช้ประโยชน์ทั้งเชิงพาณิชย์ เชิงนโยบาย และเชิงสาธารณะ  รวมทั้งพัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม  อันจะนำไปสู่การพัฒนาภาคเศรษฐกิจควบคู่กับสังคมอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน  ในวันที่  23  มกราคม  2567    ห้องประชุมใหญ่ชั้น 5 อาคาร Admin  วว. เทคโนธานี คลองห้า จังหวัดปทุมธานี  ในการนี้  ดร.โศรดา  วัลภา  รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ วว. และ ผศ.ดร.มณฑิรา  นพรัตน์  รองอธิการบดี  ฝ่ายอุตสาหกรรมและภาคีความร่วมมือ  มจธ. ร่วมเป็นสักขีพยาน  โดยมีคณะผู้บริหารและบุคลากรทั้งสองหน่วยงานร่วมเป็นเกียรติและแสดงความยินดีด้วย

โอกาสนี้ คณะฯ มจธ. ได้เยี่ยมชมภารกิจ ศูนย์นวัตกรรมการผลิตหัวเชื้อจุลินทรีย์เพื่ออุตสาหกรรม (ICPIM)  ในสังกัด ศูนย์ความหลากหลายทางชีวภาพ วว. ที่มีศักยภาพและความพร้อมด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีแบบครบวงจร (Research and Development, Innovation and Manufacturing : RDIM) ประกอบด้วย นักวิจัยที่มีประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีจุลินทรีย์โพรไบโอติกและจุลินทรีย์ในอุตสาหกรรมอาหาร มีโครงสร้างพื้นฐานสำหรับงานวิจัยพัฒนาตั้งแต่ระดับต้นทาง (Upstream unit) ประกอบด้วย ห้องปฏิบัติการเฉพาะทาง ตั้งแต่ในระดับห้องปฏิบัติการ ระดับสัตว์ทดลอง จนถึงการศึกษาในระดับมนุษย์ (Clinical trial) ถึงระดับปลายทาง (Downstream unit) มีกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐานสากล ที่ได้รับอนุญาตจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งถือเป็นสายการผลิตที่ครบวงจรเป็นแห่งแรกของประเทศ เพื่อการนำไปใช้ประโยชน์ด้านสุขภาพอย่างยั่งยืน ทำให้เกิดการขยายตัวของอุตสาหกรรมอาหาร อาหารสุขภาพ ที่สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ

ผู้ว่าการ วว.  กล่าวว่า  เป้าหมายที่สำคัญของ วว. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัด อว. คือ การนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม  ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม นวัตกรรม และขีดความสามารถในการพัฒนาประเทศ ไปใช้สนับสนุน ส่งเสริม และร่วมดำเนินการกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในเชิงบูรณาการ ความร่วมมือกับ มจธ. ซึ่งเป็นเครือข่ายพันธมิตรของ วว. มายาวนาน มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ บุคลากรร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง การร่วมมืออย่างเป็นทางการจะทำให้ผลงานที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ในอุตสาหกรรมชีวภาพได้รับการยอมรับ มีความน่าเชื่อถือ และได้มาตรฐานยิ่งขึ้น และจะมีการขยายขอบข่ายงานไปสู่อุตสาหกรรมอื่นๆ ต่อไป 

“…ความเชื่อมั่นทางการค้าที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จำเป็นต้องมีผลงานวิชาการรองรับ และจะได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคมากกว่าผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีองค์ความรู้หรือวิชาการรองรับ  จากการทำงานพัฒนาเชิงพื้นที่ของ วว. ที่เข้าไปส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs  วิสาหกิจชุมชน เป็นผลงานซึ่งเป็นที่ประจักษ์และจำเป็นต้องมีพันธมิตรเข้ามาร่วมบูรณาการดำเนินงานให้มากขึ้น ความร่วมมือกับ มจธ. จะทำให้สามารถขยายผล ต่อยอดงานวิจัยและพัฒนาสู่เชิงเศรษฐกิจได้รวดเร็วและจำนวนมากขึ้นตามความต้องการของตลาด  เป็น Networking  ร่วมกัน และนำไปสู่ความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม…” ดร.ชุติมา  เอี่ยมโชติชวลิต  กล่าว

รศ.ดร.สุวิทย์  แซ่เตีย  อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี  กล่าวว่า  วว. และ มจธ. ดำเนินงานร่วมกันมากว่า 30 ปี บูรณาการดำเนินงานเป็นเครือข่ายพันธมิตรที่ชัดเจน ภายใต้กรอบความร่วมมือที่เป็นทางการครั้งนี้ ทั้งสองหน่วยงานจะร่วมดำเนินการ คือ 1) พัฒนาบุคลากร ซึ่งเป็นพันธกิจหลักของ มจธ.  2) การวิจัย/นวัตกรรม โดยจะเริ่มจาก BCG ที่เป็นนโยบายหลักของรัฐบาลและนำไปสู่สาขาอื่นๆ  เช่น แพทย์แผนไทย  ยา  สมุนไพร  และ 3 ) บูรณาการดำเนินงานภายใต้โครงการธัชวิทย์  ในการพัฒนาฐานข้อมูล  แพลตฟอร์มเกี่ยวกับ วทน. ที่สอดคล้องกับนโยบาย อว. เป็นต้น

“…เราจะช่วยกันสร้าง Impact ให้กับประเทศ ทำให้ภาพการใช้องค์ความรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม พัฒนาประเทศชัดเจนยิ่งขึ้น  เชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพของทั้งสองหน่วยงานจะสามารถตอบสนองภาคเอกชนได้เป็นอย่างดี  เป็น User-friendly  ร่วมกัน  ภายใต้หลักธรรมาภิบาล มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้… ” อธิการบดี มจธ. กล่าว